เมนู

โมกข์ไม่เป็นธรรม 1 งดปาติโมกข์เป็นธรรม 1.
หมวดห้าล้วนที่กล่าวแล้วจบ
หัวข้อประจำหมวด 5 จบ


หมวด 6
ว่าด้วยความไม่เคารพเป็นต้น


[988] ความไม่เคารพมี 6 ความเคารพมี 6 วินีตวัตถุมี 6 สามีจิ-
กรรมมี 6 สมุฏฐานอาบัติมี 6 อาบัติมีอันตัดเป็นวินัยกรรมมี 6 ภิกษุต้อง
อาบัติด้วยอาการ 6 การทรงวินัยมีอานิสงส์ 6 สิกขาบทที่ว่าด้วยอย่างยิ่งมี 6 ภิกษุ
อยู่ปราศจากไตรจีวร 6 ราตรี จีวรมี 6 ชนิด น้ำย้อมมี 6 ชนิด อาบัติเกิดแต่
กายกับจิตมิใช่วาจามี 6 อาบัติ เกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กายมี 6 อาบัติเกิด
แต่กายวาจาและจิตมี 6 กรรมมี 6 มูลแห่งวิวาทมี 6 มูลแห่งการโจทมี 6
สาราณียธรรมี 6 ผ้าอาบน้ำฝนยาว 6 คืบ พระสุคต จีวรพระสุคตกว้าง 6 คืบ
พระสุคต นิสัยระงับจากพระอาจารย์มี 6 อนุบัญญัติในการอาบน้ำมี 6 ภิกษุ
ถือเอาจีวรที่ทำค้างไว้แล้วหลีกไป เก็บเอาจีวรที่ทำค้างแล้วหลีกไป.

ว่าด้วยองค์ 6 แห่งพระอุปัชฌาย์


[989] ภิกษุประกอบด้วยองค์ 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-

เป็นผู้ประกอบด้วยกองศีล ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองสมาธิ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองปัญญา ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้มีพรรษาสิบ หรือมีพรรษาเกินสิบ 1
ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
เป็นผู้ประกอบด้วยกองศีลของพระอเสขะด้วยตน และชักชวนผู้อื่นใน
กองศีล ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองสมาธิของพระอเสขะด้วยตน และชักชวนผู้อื่น
ในกองสมาธิ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองปัญญาของพระอเสขะด้วยตน และชักชวนผู้อื่น
ในกองปัญญา ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติของพระอเสขะด้วยตน และชักชวนผู้อื่น
ในกองวิมุตติ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะของพระอเสขะด้วยตน และ
ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ ของพระอเสขะ 1
เป็นผู้มีพรรษาสิบ หรือมีพรรษาเกินสิบ 1
ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ มีศรัทธา 1 มีความละอาย 1 มีความเกรงกลัวบาป
1 ปรารภความเพียร 1 มีสติตั้งมั่น 1 มีพรรษาสิบ หรือมีพรรษาเกินสิบ 1

ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ไม่มีศีลวิบัติในอธิศีล 1 ไม่มีอาจารวิบัติในอัธยา-
จาร 1 ไม่มีทิฏฐิวิบัติในอติทิฏฐิ 1 เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก 1 มีปัญญา 1 มีพรร-
ษาสิบ หรือพรรษาเกินสิบ 1
ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ อาจพยาบาลเอง หรือสั่งให้ผู้อื่นพยาบาลอันเตวา-
สิกหรือสิทธิวิหาริกผู้อาพาธ 1 อาจระงับเองหรือวานผู้อื่นให้ช่วยระงับความ
กระสันอันเกิดขึ้นแล้ว 1 อาจบรรเทาเองหรือวานผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อ
หน่ายอันเกิดขึ้นโดยธรรม 1 รู้จักอาบัติ 1 รู้จักวิธีออกจากอาบัติ 1 มีพรรษา
ได้สิบ หรือมีพรรษาเกินสิบ 1
ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ อาจฝีกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริกในสิกขา
อันเป็นส่วนอภิสมาจาร 1 อาจแนะนำอันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริกในสิกขาเป็น
ส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ 1 อาจแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป 1 อาจแนะนำ
ในวินัยอันยิ่งขึ้นไป 1 อาจเปลื้องทิฏฐิผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม 1 มีพรรษาได้
สิบ หรือมีพรรษาเกินสิบ 1
ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 6 ควรให้อุปสมบท ควรให้นิสัย
ควรให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ รู้อาบัติ 1 รู้สิ่งมิใช่อาบัติ 1 รู้อาบัติเบา 1
รู้อาบัติหนัก 1 จำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดีโดยพิสดาร จำแนกดี สวดคล่องแคล่ว
วินิจฉัยถูกต้องโดยสูตร โดยอนุพยัญชนะ 1 มีพรรษาได้สิบ หรือมีพรรษา
เกินสิบ 1.

ว่าด้วยงดปาติโมกข์


[990] งดปาติโมกข์ไม่เป็นธรรมมี 6 งดปาติโมกข์เป็นธรรมมี 6.
หมวด 6 จบ

หัวข้อประจำหมวด


[991] อคารวะ 1 คารวะ 1 วินีต-
วัตถุ 1 สามีจิกรรม 1 สมุฏฐานอาบัติ 1
สิกขาบทมีการตัดเป็นวินัยกรรม 1 อาการ 1
อานิสงส์ 1 สิกขาบทว่าด้วยอย่างยิ่ง 1
อยู่ปราศ 6 ราตรี 1 จีวร 1 น้ำย้อม 1
อาบัติเกิดแต่กายกับจิต 1 วาจากับจิต 1
กายวาจาและจิต 1 กรรม 1 มูลแห่งวิวาท 1
มูลแห่งการโจท 1 ด้านยาว 1 ด้ายกว้าง 1
นิสัยระงับ 1 อนุบัญญัติ 1 ถือเอาจีวรที่ทำ
ค้าง 1 เก็บเอาจีวรที่ทำค้าง 1 อเสขธรรม 1
ชักชวนผู้อื่นในอเสขธรรม 1 มีศรัทธา 1
อธิศีล 1 พยาบาลผู้อาพาธ 1 ฝึกปรือใน
อภิสมาจาร 1 รู้อาบัติ 1 งดปาติโมกข์ไม่
เป็นธรรม 1 งดปาติโมกข์เป็นธรรม 1.

หัวข้อประจำหมวด 6 จบ